พอเราสองคนบอกว่ากำลังจะไป เที่ยวเอธิโอเปีย มักจะมีคนถามว่า “ไปทำอะไรที่นั่น?” “เอธิโอเปียมีอะไรน่าเที่ยว?” เพราะเคยเห็นแต่ภาพของคนพื้นเมืองที่ดูผอมจนน่าสงสาร จนมีโอกาสได้มาเยือนประเทศนี้ด้วยตัวเอง ขอบอกเลยว่าประเทศเอธิโอเปียเจริญกว่าที่เราคิดไว้มาก คงเพราะในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนจากประเทศจีนได้หลั่งไหลเข้ามาลงทุน ทำให้ถนนหนทางและอาคารต่างๆ พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งการส่องสัตว์ที่เป็น Boat Safari แถมยังมีสถานที่สำคัญที่เป็นมรดกโลกให้ได้ไปเยือน นอกจากนี้ เอธิโอเปียยังเป็นประเทศที่ค้นพบเมล็ดกาแฟเป็นประเทศแรกของโลกอีกด้วย…“เที่ยวเอธิโอเปีย แบบครบรส…ชมวิถีชนเผ่า ส่องสัตว์ เยือนมรดกโลก”
การเดินทางไปประเทศเอธิโอเปีย วิธีที่สะดวกที่สุด คือ การนั่งเครื่องบินของสายการบินประจำชาติอย่าง Ethiopian Airlines บินตรง ไม่ต้องต่อเครื่อง เป็นสายการบินในเครือ STAR ALLIANCE
เครื่องที่เรานั่งออกจากกรุงเทพฯ เป็นเครื่อง BOEING 787-8 ผังที่นั่งชั้นธุรกิจเป็นแบบ 2-2-2 ที่นั่งกว้างขวาง เอนนอนได้ 180 องศา Entertainment ต่างๆ บนเครื่องมีครบครัน Amenities ของสายการบินนี้จะพิเศษกว่าสายอื่น ตรงที่เขาจะเน้นใช้สินค้าพื้นเมือง ไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนมทั่วไป เครื่องออกจากรุงเทพฯ ใช้เวลาบินประมาณ 9 ชั่วโมง ไปยังสนามบินอาดดิสอาบาบา ประเทศเอธิโอเปีย ระหว่างทางจะเสิร์ฟอาหาร 2 มื้อ คือ มื้อเย็นและมื้อเช้า ขนมปังที่เสิร์ฟบนเครื่อง เชฟทำเองทั้งหมด สำหรับใครที่กังวลเรื่องอาหารบนเครื่องจะมีกลิ่นหรือรสชาติที่ไม่น่าพิศมัย สบายใจได้ เพราะอาหารบนเครื่องกลิ่นไม่แรง ทานง่าย การันตีคุณภาพด้วยรางวัล Best Airline in Africa 4 ปีซ้อน
ประเทศเอธิโอเปีย เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันต่อเนื่องยาวนานที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นดินแดนที่ได้รับอารยธรรมจากอียิปต์และกรีกตั้งแต่สมัยโบราณ มีเมืองหลวงชื่อ อาดดิสอาบาบา (Addis Ababa) ซึ่งเป็นเมืองที่มีตึกสูงมากมาย หากจะหาที่พักดีๆ ในเมืองนี้ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีโรงแรมเปิดใหม่ สวย แถมได้มาตรฐานเหมือนโรงแรมชั้นนำ อย่าง Ethiopian Skylight Hotel ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน มี Shuttle Bus คอยให้บริการรับ-ส่งตลอดทั้งวัน
ห้องที่เราพักเป็นห้อง STANDARD ขนาด 32 ตารางเมตร ภายในใหม่กริ๊บ มีครบทั้งห้องอาบน้ำแบบ Rain Shower อ่างอาบน้ำ เตียงนอนหนานุ่ม โต๊ะสำหรับนั่งทำงาน โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน กาต้มน้ำ ตู้เย็น เตารีด พร้อมระเบียงส่วนตัวสำหรับนั่งมองวิวเมืองที่แสนจะคึกคัก
ห้องอาหารที่นี่มีให้เลือกทั้งอาหารพื้นเมืองและอาหารนานาชาติ สามารถเลือกทานได้ทั้งแบบบุฟเฟ่ต์และ A LA CARTE โดยส่วนตัว รู้สึกว่าอาหารที่นี่ทานง่าย กลิ่นไม่แรง แถมยังมีให้เลือกหลายประเภท ทั้งสลัด ข้าว แกงต่างๆ เมนูปิ้งย่าง ของทอด พาสต้า อาหารจีน ขนมปัง เค้ก ผลไม้ ของหวาน ฯลฯ
อีกทั้งยังมีโชว์การชงกาแฟแบบ Traditional ให้ได้ลองด้วย
ไลน์อาหารเช้าที่มีทั้งขนมปัง ผลไม้ และเมนูไข่ต่างๆ
นอกจากห้องพักและห้องอาหารแล้ว ที่นี่ยังมี Facilities ต่างๆ ครบครัน อาทิ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ Fitness Center ที่มีอุปกรณ์ออกกำลังกายอันทันสมัย และ Serenity Spa ที่ขึ้นชื่อ เพราะมีหมอนวดคนไทยคอยให้บริการ ที่นี่พนักงานบริการดี มี Facilities ต่างๆ ครบครัน อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน มีรถรับ-ส่งตลอด ใกล้แหล่งท่องเที่ยว เดินทางสะดวก
ใครยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนในเอธิโอเปีย เราขอแนะนำ 3 เมืองน่าเที่ยว บินตรงภายในประเทศโดยสายการบิน Ethiopian Airlines ไม่ต้องนั่งรถนาน แถมยังเที่ยวได้ครบรส ทั้งจุดเช็คอินห้ามพลาด นั่งเรือชมจระเข้แบบใกล้ชิด และชมโบสถ์อันขึ้นชื่อ
ADDIS ABABA #เช็คอินเมืองหลวง
“ชมต้นกำเนิดมนุษย์ ป้าลูซี่ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเอธิโอเปีย”
ใครที่มาเยือนที่นี่ ต้องไม่พลาดที่มาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติเอธิโอเปีย (National Museum of Ethiopia) ซึ่งเป็นอาคาร 3 ชั้น สิ่งที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ คือ ซากฟอสซิลของมนุษย์ดึกดำบรรพ์ หรือ โฮมินิดส์ ที่มีชื่อว่า “LUCY” โครงกระดูกของผู้หญิงที่มีอายุมากที่สุดในโลก ราว 3.2 ล้านปี ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี 1974 แสดงอยู่ในตู้กระจก พร้อมด้วยข้อมูลเกี่ยวกับการขุดค้นทางโบราณคดีต่างๆ ในช่วงวิวัฒนาการจากลิงเป็นคน
“Tomoca Coffee ร้านกาแฟแห่งแรกของเอธิโอเปีย”
หลายคนคงเคยได้ยินชื่อของกาแฟเอธิโอเปียกันมาบ้าง เพราะเอธิโอเปียเป็นประเทศแรกของโลกที่ค้นพบเมล็ดกาแฟ ดังนั้นมาเยือนเอธิโอเปียทั้งที ต้องไม่พลาดจะมาลองกาแฟแบบคน Local กันที่ร้านกาแฟ Tomoca Coffee ซึ่งเป็นร้านกาแฟแห่งแรกของเอธิโอเปีย ก่อตั้งเมื่อปี 1953 ซึ่งปัจจุบันมีมากมายหลายสาขา สาเหตุที่เราเลือกมาที่สาขา Piazza เพราะที่นี่ยังคงเสิร์ฟกาแฟแบบดั้งเดิม ในร้านจะไม่มีเก้าอี้ให้นั่งเหมือนคาเฟ่บ้านเรา มีเพียงโต๊ะยาวตัวสูง เพื่อใช้วางแก้ว คนที่มาจิบกาแฟ ใช้เวลาเพียงสั้นๆ ในการดื่มกาแฟพร้อมพูดคุยกับเพื่อนใหม่ในร้าน นอกจากกาแฟแล้ว ที่นี่ยังมีเบเกอรี่ให้ทานคู่กันด้วย ไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นคนเอธิโอเปียเข้าออกร้านกาแฟกันตลอดทั้งวัน เพราะคนที่นี่เขาดื่มกาแฟกันวันละไม่ต่ำกว่า 3 แก้ว
“Holy Trinity Cathedral”
มหาวิหารนิกายโอโธดอกซ์ ที่เคยได้รับการยกย่องว่าใหญ่ที่สุดในเอธิโอเปีย สร้างขึ้นเพื่อฉลองการได้มาซึ่งชัยชนะเหนือกองทัพอิตาลี นับเป็นมหาวิหารที่งดงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุง Addis Ababa ในปัจจุบันใช้เป็นสถานที่เก็บพระศพของ Haile Selassie จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเอธิโอเปียด้วย
“ชมวิวเมืองมุมสูง Entoto Park”
หากอยากเก็บภาพมุมสูงของเมือง Addis Ababa ขอแนะนำให้ไปที่ Entoto Park ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาทางทิศเหนือ เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เพราะทำให้เราเห็นวิวเมือง Addis Ababa แบบพาโนราม่า อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปมากมาย
ARBA MINCH #ใกล้ชิดชนเผ่า&ตะลุยซาฟารีทางน้ำ
“สัมผัสวิถีชนเผ่า The Village of The Dorze People”
จากเมืองหลวง เราจะพาลงใต้มาที่เมือง Arba Minch (อาร์บามิช) ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Gamo Gofa เป็นอาณาเขตของชนเผ่าดั้งเดิมของเอธิโอเปีย (อยู่ในลำดับที่ 25 ของชนเผ่าที่กำลังจะหายสาบสูญ) นับเป็นเขตที่มีทรัพยากรมากที่สุดในภาคใต้ มีทะเลสาบขนาดใหญ่สองแห่ง คือ Abaya และ Chamo มีน้ำพุกว่า 40 แห่ง รวมถึงอุทยานแห่งชาติเนชิซาร์ที่มีชื่อเสียงด้วย
มา Arba Minch ทั้งที ต้องลองไปสัมผัสวิถีของชนเผ่าที่ THE VILLAGE OF THE DORZE PEOPLE ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ชนเผ่า Dorze เชี่ยวชาญเรื่องการทอผ้าแบบดั้งเดิม มีการแต่งกายที่เป็นเอกลักษณ์
บ้านพักอาศัยของพวกเขาเป็นกระท่อมรูปช้างที่ทำจากไม้ไผ่
เวลาที่เราไปเยือนบ้านของพวกเขา เขาจะทำอาหารจากกล้วยให้เราทาน พร้อมโชว์เต้นรำเพื่อเป็นการต้อนรับแขกที่มาเยือน
“Boat Trip on Lake Chamo ชมตลาดจระเข้แบบใกล้ชิด”
Boat Trip on Lake Chamo เป็นการนั่งเรือไปในทะเลสาบ Chamo เพื่อชมจระเข้ และสัตว์อื่นๆ อาทิ ฮิปโปโปเตมัส และนกหลากชนิด
เรือจะพาเราไปยัง Crocodile Market ฟังชื่อแล้วอย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่าเป็นตลาดซื้อขายจระเข้ แต่เป็นชื่อเรียกของบริเวณที่จระเข้จะมานอนอาบแดด เพื่อย่อยอาหารกัน ณ จุดนี้เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของจระเข้อย่างใกล้ชิด การมาที่นี่ ต้องหาไกด์และคนขับเรือที่มีความชำนาญ เพื่อความปลอดภัย เพราะหากใช้เรือที่มีขนาดเล็กเข้าใกล้จระเข้จนเกินไป อาจก่อให้เกิดอันตรายได้
LALIBELA #เยือนเมืองเยรูซาเล็มแห่งใหม่
“ชมโบสถ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ UNESCO”
เมือง LALIBELA (ลาลิเบล่า) นับเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวคริสต์ เป็นเมืองมรดกโลกที่ตั้งอยู่ในแคว้นอัมฮาร่า ทางตอนเหนือของประเทศเอธิโอเปีย อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 2,500 เมตร ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ในเมืองมีศาสนสถานที่ประกอบด้วยโบสถ์เก่าแก่มากถึง 11 หลัง จุดที่น่าทึ่งของโบสถ์เหล่านี้ คือ สร้างขึ้นจากการเจาะภูเขาทั้งลูก ซึ่งมีอายุราว 800-900 ปี นับเป็นศูนย์รวมของผู้ที่ต้องการมาจาริกแสวงบุญ
ชื่อของเมืองนี้ถูกตั้งตามชื่อของนักบุญลาลิเบล่า ผู้ซึ่งเคยใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม และต้องการสร้างเมืองแห่งนี้ให้เป็นเยรูซาเลมแห่งใหม่ (New Jerusalem) ประชากรส่วนมากของเมืองลาลิเบล่านับถือ ศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด๊อก รูปแบบการก่อสร้างและชื่อของตึกใหญ่ในเมืองนี้ได้ถูกออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์และตัวแทนของกรุงเยรูซาเล็มนั่นเอง
โบสถ์ที่นับเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ได้แก่ โบสถ์พระเยซูคริสต์ (BETE MEDHANE ALEM) โบสถ์ขนาดใหญ่ที่แกะสลักจากหินก้อนเดียว ซึ่งนับว่าใหญ่ที่สุดในโลก / โบสถ์พระแม่มารี (BETE MARYAM) / และ CHURCH OF ST.GEORGE หรือ BETE GIORGIS เป็นโบสถ์ที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด มีความสูง 15 เมตร บริเวณหลังคามีสัญลักษณ์ไม้กางเขน แม้จะมีอายุเก่าแก่ แต่ก็ยังคงใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน ด้วยความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรมนี้ ทำให้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของ UNESCO ในปี 1978
“สัมผัสกับวิถีชุมชนขนานแท้ Local Market”
หากอยากสัมผัสกับวิถีชุมชนขนานแท้ ต้องไม่พลาดกับ LOCAL MARKET ซึ่งจะมีทุกวันเสาร์ เป็นตลาดที่ชาวบ้านจะนำผัก ผลไม้ มาแบขายบนพื้น รวมถึงมีการซื้อ-ขายสัตว์ที่ใช้เป็นพาหนะอย่างลาด้วย การเดินทางไปยังตลาดไม่ยาก เราสามารถให้ทางโรงแรมเรียกรถตุ๊ก ตุ๊ก เพื่อพาไปยังตลาดได้ แต่ขอแนะนำว่าการจะเดินเข้าไปในตลาด ควรมีคนท้องถิ่นนำไป อย่าเดินไปเองโดยลำพังจะดีกว่า
หากเที่ยวในเอธิโอเปียแล้วยังไม่หนำใจ สายการบิน ETHIOPIAN AIRLINES ก็มีเส้นทางอื่นๆ ให้เราได้ลองเปิดประสบการณ์การเดินทางไปยังที่ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ มาดากัสการ์ แอฟริกาใต้ นามิเบีย ฯลฯ ซึ่งแต่ละเส้นทางมีบินทุกวัน หรือจะเป็นเส้นทางยอดฮิตอย่างยุโรป อเมริกาใต้ ก็มีให้บริการ ระหว่างรอขึ้นเครื่องที่เอธิโอเปีย มี LOUNGE ขนาดใหญ่ให้ได้พักผ่อน อิ่มท้องกันสบายๆ ซึ่งมีทั้ง Lounge สำหรับลูกค้า Gold Member ของ Star Alliance และ Lounge สำหรับลูกค้าชั้นธุรกิจ ที่มีห้องอาบน้ำ โซนงดใช้เสียง รวมถึงอาหาร เครื่องดื่มที่มีเติมตลอด เข้าไปดูเส้นทางพร้อมโปรโมชั่นได้ที่ -> https://www.ethiopianairlines.com/th
ใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะเริ่ม เที่ยวเอธิโอเปีย อย่างไร การเดินทางกับบริษัททัวร์ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทาง รวมถึงไม่พลาดสถานที่ไฮไลท์แน่นอน ลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ เพื่อเปิดโลกการท่องเที่ยวให้กว้างขึ้น แล้วจะรู้ว่ายังมีหลายอย่างที่ไม่มีตำราไหนจะมาทดแทนประสบการณ์ครั้งนี้ได้
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทางรีวิว
หรือในเพจ https://www.facebook.com/Nejuphoto