หนึ่งในจังหวัดที่หลายคนลิสต์ชื่อไว้เพื่อที่จะไปชมความงามอลังการ
ของเทศกาลลอยกระทง คงหนีไม่พ้น จ.สุโขทัย
สุโขทัยไม่ได้มีดีแค่งานลอยกระทง ไม่ใช่น่าเที่ยวแค่ช่วงนั้น แต่สุโขทัยเป็นเหมือนเพชรเม็ดงาม
ที่ซ่อนความสวยงามในอีกหลายๆด้านที่รอให้เหล่านักท่องเที่ยวอย่างพวกเราได้ไปพบเจอเพชรเม็ดนี้เอง
รีวิวนี้ผมจะพาไปพบประสบการณ์ใหม่ๆในสุโขทัย
เพื่อให้เพื่อนๆได้เตรียมตัวที่ไปเที่ยว ไปค้นหาความงามของเพชรเม็ดนี้กัน…
“7 Experience Hidden – Sukhothai”
ปัจจุบันมีเพียงสายการ Bangkok Airways สายการบินเดียว ที่บินตรงไปยังสุโขทัย
บินวันละ 2 เที่ยวบินต่อวัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม 15 นาที ถึงสุโขทัยครับ
ถึงเครื่องที่ใช้บินไปสุโขทัยจะมีขนาดเล็กกว่าเครื่องทั่วไปที่ไปจังหวัดใหญ่ๆ
แต่ความปลอดภัยนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่ต่างกันเลยครับ ปลอดภัย นั่งสบายเหมือนกัน
อีกทั้งบรรยากาศสนามบินเมื่อตอนไปถึงที่ไม่เหมือนใคร คงความเป็นเอกลักษณ์แบบไทยได้อย่างดี ^^
7 ประสบการณ์ ที่ผมจะพาไปเที่ยวในสุโขทัยมีที่ไหนบ้าง จะทายตรงใจมั้ย ลองไปชมกันครับ
1. ประสบการณ์คลาสสิค นั่งรถคอกหมู
รถคอกหมู รถสองแถวสีสันสดใสบุด้านข้างด้วยไม้ เป็นรถที่ใช้กันตั้งแต่อดีตมาจนปัจจุบัน
ในตัวเมืองสุโขทัยหรือบางอำเภอของสุโขทัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอำเภอกงไกรลาส
ยังคงมีใช้กันอยู่ อย่างในตัวเมืองสุโขทัยนี้ก็ยังมีรถคอกหมูบริการจากในตัวเมือง
มายังเมืองเก่า นอกเหนือจากรถตุ๊กๆที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้บริการเช่าเหมากันแล้ว
รถคอกหมูนี้ก็เป็นอีกหนึ่งการขนส่งที่นักท่องเที่ยวนิยมกัน แต่จะมีรอบขึ้นตามเที่ยวที่กำหนด
หรือใครที่มากันหลายๆคนอยากได้บรรยากาศแบบคนสุโขทัย สามารถเช่าเหมาคัน
นั่งจากตัวเมืองสุโขทัยไปยังสถานที่เที่ยวได้ครับ
ด้วยตัวรถคอกหมูเองจะใช้ความเร็วในการวิ่งประมาณ 40-60 กม / ชม
เหมาะสำหรับคนที่เน้นชิว ดื่มด่ำบรรยากาศสองข้างทางจิบกาแฟในมือไปพลางๆนะครับ ^^
2. ประสบการณ์อิ่มท้องของหวาน ชิมขนมผิงและขนมหลากหลายที่บ้านกง
ขนมผิง เป็นขนมโบราณที่ทำมาจากแป้งผสมกับน้ำตาล นำไปอบจนกรอบมีสีเหลืองขาวนวล
นักท่องเที่ยวที่มาสุโขทัยส่วนใหญ่จะไม่พลาดการซื้อขนมผิงกลับไปฝาก และร้านนี้ก็เป็นร้านขึ้นชื่อ
ของกงไกรลาศ แม่ติ๋ม ขนมผิงแง้มประตูขาย จากเมื่อก่อนทำขนมผิงอยู่หลังร้าน ประตูหน้าบ้าน
จะเปิดแง้มเอาไว้ พอใครสั่งขนมผิง ก็จะตะโกนเข้ามาว่าเอากี่ห่อ จนได้ที่มาว่า
“ขนมผิงแง้มประตูขาย” รสชาตินั้นบอกได้เลยว่า ละลายในปากสุดๆ
อีกเจ้าที่อยู่ใกล้ๆกัน ร้านแม่สงวน ร้านนี้ทีเด็ดอยู่ที่ขนมทองม้วน กรอบ หอม อร่อย
แวะไปสุโขทัย แวะไปกงไกรลาศ ถ้าไม่ซื้อขนมผิง ขนมทองม้วนกลับมาฝาก ถือว่า…
“คุณพลาดที่สุด”
3. ประสบการณ์ชิมของเด็ด กงไกรลาศ
ยังอยู่ที่กงไกรลาศ เพราะที่นี่มีของดีของเด็ดอีกหลายอย่าง อาทิ ปลาร้าผง เป็นสินค้าส่งออกขายดี
ถึงต่างประเทศ การจะพกพาปลาร้าแบบน้ำขึ้นเครื่องบินไปก็คงลำบาก วิธีนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด
ปลาร้าชนิดผง แบบก้อน นำมาผสมน้ำรสชาติดีงาม ไม่เหม็น แถมยังอร่อยอีกด้วย
ของฝากผ่านไป มาถึงแหล่งเติมพลังงานเหล่านักท่องเที่ยวกันบ้าง 3 เมนูที่ผมอยากให้เพื่อนๆได้ชิมคือ
1. ก๋วยเตี๋ยวเรือหมู เนื้อ
2. ก๋วยจั๊บหมูหมัก
3. ผัดไทห่อใบตอง
ชื่อเมนูอาจดูไม่มีอะไรแปลก แต่แนะนำเลยว่าต้องมาชิม โดยเฉพาะก๋วยจั๊บนี่ทำผมเบิ้ลมาแล้ว
ถ้ามีแรงเหลือจากก๋วยจั๊บก็ต้องไปโดนผัดไทห่อใบตองที่ชุมชนริมแม่น้ำยมแห่งนี้ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง
การเดินทาง : จากถนนใหญ่เส้น สุโขทัย-พิษณุโลก (ถนนหลวงหมายเลข12) ถึงอำเภอกงไกลาส
ให้เลี้ยวเข้าตรงแยกไฟแดงข้างที่ว่าการอำเภอ ตรงเข้าไปทางวัดกงไกรลาศ ทางไปแม่น้ำยม
ตรงเข้าไปประมาณ 3 กม. เลี้ยวเข้าซอยกงไกรลาศ 9 ตรงไปประมาณ 180 เมตร
จะเห็นร้านผัดไทอยู่ทางขวามือ ส่วนอีกสองร้านอยู่ใกล้ๆกันเดินไปทานได้หมดทุกร้านเลยครับ ^^
4. ประสบการณ์การปั่นจักรยาน ชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ครอบคลุมพื้นที่โบราณสถานกรุงสุโขทัย
ศูนย์กลางการปกครองของอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งมีอำนาจอยู่บริเวณภาคเหนือตอนล่าง
ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า (เขตเทศบาลตำบลเมืองเก่า) ห่างจากตัวเมืองสุโขทัยปัจจุบัน
ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กม. เหล่านักท่องเที่ยวที่มาที่นี่นิยมชมศิลปะสมัยสุโขทัย
ไหว้พระ และอีกสิ่งหนึ่งคือ ปั่นจักรยานชมโบราณสถาน
ค่าเช่าจักรยานคันละ 30 – 50 บาท ต่อวัน ซึ่งถือว่าราคาไม่แพง สามารถปั่นไปได้ทั่วอุทยานแห่งนี้
ภายในยังเหลือร่องรอยของพระราชวังและวัดอีก 26 แห่ง แถมยังได้ขึ้นเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกด้วย
26 วัดภายในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ไม่ได้อยู่ไกลกันมากนัก
ปั่นจักรยานเรื่อยๆ ชิวๆ ชมวิวชมบรรยากาศสองข้างทาง แค่นี้ก็มีความสุขมากพอแล้วครับ
ปั่นจักรยานชมวิวเพลินๆ อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวอุทยานแห่งนี้
วัดมหาธาตุ เป็นชื่อเรียกของวัดที่ที่มีพระสถูปเจดีย์หรือพระปรางค์ที่บรรจุพระอัฐิธาตุ
ของพระพุทธเจ้า วัดนี้เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอีกด้วย
5. ประสบการณ์เครื่องปั้นของดี เครื่องปั้นสังคโลก
“เครื่องสังคโลก” หมายถึง เครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตขึ้นในรูปภาชนะเครื่องใช้ และ
เครื่องประดับอาคารต่างๆ เช่น ถ้วย ชาม จาน ไหดิน โอ่งน้ำ ขวดดิน กระปุก ช้อน ตลอดจน
ตุ๊กตารูปคน รูปสัตว์ เป็นต้น ซึ่งในกระบวนการผลิตเครื่องสังคโลกนั้น จะมีการเขียนลาย
และเคลือบน้ำยาซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสุโขทัย จากนั้นจึงนำไปเผาใน “เตาทุเรียง”
ซึ่งปรากฏในปัจจุบันให้เห็นที่อำเภอเมืองสุโขทัย และที่อำเภอศรีสัชนาลัย
นับจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน เครื่องสังคโลก ถือได้ว่าเป็นวัฒนธรรมเชิงหัตถศิลป์ที่มีการสืบทอดตั้งแต่
สมัยเมืองสุโขทัยเป็นราชธานี ให้เราผู้เป็นอนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษาและภาคภูมิใจในอัตลักษณ์
ของบรรพบุรุษของเรา จนกระทั่งปัจจุบัน สุโขทัย ก็ยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และ
วัฒนธรรมที่ยังทรงคุณค่าทางด้านอารยธรรมอันรุ่งเรืองซึ่งถ่ายทอดผ่านโบราณสถาน
และโบราณวัตถุจวบจนทุกวันนี้
6. ประสบการณ์หลงรัก ศรีสัชนาลัย
ศรีสัชนาลัย…ทำไมต้องหลงรัก ???
อำเภอศรีสัชนาลัย เป็นเหมือนเพชรเม็ดงามที่ซ่อนคุณค่าความงามไว้หลายอย่าง
ทั้งอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ที่เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก
ภายในอุทยานประวัติศาสตร์แห่งนี้มีความร่มรื่นมากกว่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเสียอีก
แถมยังไม่พลุกพล่าน สงบ เหมาะกับการมาพักผ่อน ไหว้พระ
หรือศึกษาแหล่งโบราณสถานที่ดีอีกแห่งหนึ่ง
ที่นี่สามารถนำจักรยานมาปั่นชมวิวได้ แต่ไม่มีให้เช่าจากในอุทยานประวัติศาสตร์นะครับ
เส้นทาง บรรยากาศ ชนะขาดเลย ผมการันตี ^^
คุณค่าความงามของเพชรเม็ดนี้ยังไม่หมด อีกหนึ่งชุมชน บ้านนาต้นจั่น
ที่มีวิถีชีวิตชุมชนชาวบ้าน การปั่นจักรยานเลียบทุ่งนา คุณเคยเห็นประสบการณ์แบบนี้
ที่ไหนบ้าง สำหรับผม ผมเคยเห็นแค่ที่นี่ครับ
ตะวันตรงหัว หรือจะบ่ายคล้อย แดดแรงแค่ไหน วิวสองข้างทางของบ้านนาต้นจั่นแห่งนี้
ทำให้ชุ่มชื่นเหลือเกิน สีเขียวที่ดูแล้วสบายตา เส้นทางที่สามารถปั่นจักรยานได้แบบ
ไม่ทุลักทุเล แถมสองข้างทาง ยังมีชุมชนที่พร้อมให้ความรู้พวกเราตลอดเวลาในเรื่องของ
การทำอาชีพด้านที่เขาถนัด ได้สัมผัสวิถีชุมชนที่แท้จริง ผมบรรยายมาซะขนาดนี้
แล้วคุณจะไม่หลงรัก…ศรีสัชนาลัย เหมือนผมได้ยังไงกันครับ จริงมั้ย ???
7. ประสบการณ์พิเศษ ดีงามกับสนามบินที่มีมากกว่าคำว่าสนามบิน
สนามบินที่เป็นมากกว่าสนามบิน ผมให้นิยามคำนี้กับสนามบินที่นี่ “สนามบินสุโขทัย”
ความเป็นเอกลักษณ์ของตัวสนามบินที่ไม่เหมือนใครเมื่อแรกเริ่มที่ได้สัมผัสตอนมาถึง
สนามบินแห่งนี้มีสายการบินเดียวที่บินมาลงคือ Bangkok Airways ซึ่งเป็นเจ้าของสนามบิน
แห่งนี้เจ้าเดียว บริเวณสนามบินมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งบนพื้นที่กว่า 2000 ไร่
ถ้าลงเครื่องแล้วอยากหาที่พัก ที่นี่ก็มี โรงแรม Sukhothai Heritage Resort
ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอยู่ภายใน
ตัวห้องมีหลายห้องรองรับนักท่องเที่ยวได้ปริมาณมาก กลิ่นอายของความเป็นไทยผสมผสาน
การตกแต่งแบบเรียบง่าย ทำให้ที่พักที่นี่ดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
สระว่ายน้ำ สปา อาหารเช้า ห้องรับรอง ทุกอย่างมีครบครัน
จากที่พักในสนามบิน มาสู่ร้านอาหารกันบ้าง แต่ที่นี่เป็นร้านอาหารที่นำผลิตภัณฑ์ทุกอย่าง
ที่ปลูกเองมาปรุงอาหาร โครงการเกษตรอินทรีย์ เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมฟรี
ประกอบด้วยร้านข้าวหอมสุโขทัย ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ หน่วยพัฒนาพันธุ์ข้าว ยุ้งข้าว
มีชุมชนโรงสีข้าว แปลงนาปู่ย่าตายาย แปลงนาสวนผสม ที่เกริ่นมาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง
ของโครงการเกษตรอินทรีย์เท่านั้นครับ ไม่น่าเชื่อว่าทุกอย่างนี้อยู่ภายในสนามบินสุโขทัย
เมนูแนะนำน่าลิ้มลองของร้านข้าวหอมสุโขทัยที่ผมอยากจะนำเสนอคือ ข้าวสามสี
ข้าวหอมสุโขทัยที่ปลูกเอง , ยำคะน้าสด , ผักออร์แกนิก และขาหมูหมั่นโถวสมุนไพร
ทุกเมนู รสชาติอร่อยแถมไม่มีสารพิษอีกต่างหาก
ยัง!!! ความอลังการงานสร้างยังไม่จบเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีฟาร์มเลี้ยงสัตว์อีกด้วยนะ
ยีราฟ ม้าลาย อัลปาก้า และสัตว์อีกหลายชนิดถูกรับการเลี้ยงดู ดูแลอย่างดี
มีรถรางวิ่งวนรอบๆเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม หรือจะเดินลงเพื่อความใกล้ชิดกับสัตว์เหล่านี้
งงมั้ยครับ สวนสัตว์ในบริเวณสนามบิน เหมือนจะเข้ากันไม่ได้ แต่พื้นที่นี้มีการจัดการที่ดี
ทั้งเรื่องเสียงของเครื่องบิน ภาวะมลพิษ กลับทำให้สวนสัตว์แห่งนี้
เป็นสวนสัตว์จังหวัดสุโขทัยไปซะแล้ว
เต็มอิ่มกับประสบการณ์ใหม่ๆแล้วก็เตรียมตัวขึ้นเครื่องเพื่อกลับ กทม กันครับ
ถึงแม้บริเวณเล้าจน์ไม่ได้ดูอลังการเหมือนเล้าจน์จังหวัดอื่นๆ แต่ที่นี่
เป็นเล้าจน์ที่ได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มๆ ทั้งการก่อสร้างที่มีเอกลักษณ์ในรูปแบบ
สถาปัตยกรรมโบราณ ทั้งความลงตัวในเรื่องการตกแต่งสถานที่สนามบินแห่งนี้คือ…ที่สุด
ที่เป็นมากกว่าสนามบินจริงๆครับ
ทริปนี้ต้องขอบคุณทีมงาน Bangkok Airways ที่ชวนผมมาร่วมทริปสนุกๆแบบนี้
ขอบคุณชาวสุโขทัยที่ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างดีและอบอุ่นด้วยรอยยิ้มเสมอ
และขอบคุณทีมงาน Octo CyCling Club ที่เป็นผู้ดูแลเส้นทางการปั่นจักรยาน
รวมถึงนำจักรยานคุณภาพดีมาให้ปั่นชิวๆอีกด้วย
เต็มอิ่มกับ 7 ประสบการณ์ที่ผมพาเพื่อนๆไปชมในสุโขทัยกันแล้ว ด้วยระยะเวลา 2 วัน 1 คืน
ก็เที่ยวได้ ไม่ต้องลาพักร้อน เสาร์ อาทิตย์นี้ถ้ายังไม่มีแพลนไปไหน ลองเลือกสุโขทัย
เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางดูซิครับ แล้วคุณจะหลงรัก…สุโขทัย ไม่รู้ตัว
“7 Experience Hidden – Sukhothai”
สามารถสอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติม กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
TAT Call Center 1672 เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย หรือ www.tourismthailand.org
ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^