cover traveloka

ใครที่ชอบเดินทางแบบเรา คงเคยเจอปัญหาเวลาไปข้ึนเครื่องที่สนามบิน อาทิ
* บ้านอยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าจะลากกระเป๋าไปข้ึน BTS แล้วต่อ Airport Link ไปสนามบินก็ลำบ้ากลำบาก บางสถานีไม่มีลิฟต์จะให้ยกกระเป๋าใบเท่าบ้านข้ึนบันไดกว่าจะถึงสนามบินคงเหงื่อชุ่มกันพอดี
* บางคร้ังเดินทางไม่กี่วัน ก็อยากจะเอารถไปจอดค้างคืนที่สนามบิน แต่การจราจรใน กทม ช่างไม่เอื้ออำนวยเอาเสียจริง ยิ่งต้องเดินทางช่วงเร่งด่วน ลุ้นกันแทบแย่ แถมค่าท่ีจอดรถก็แสนแพง อีกทั้งยังหายากอย่างกับทอง ถ้าวันไหนดวงกุดวนจนนำ้มันหมดยังหาไม่ได้เลย
* หากจะเรียก Taxi บางทีคนขับก็เลือกผู้โดยสารปฏิเสธกันดื้อๆ ช่วงเวลาเร่งด่วนกว่าจะหา Taxi ว่างได้ก็ใช้เวลานาน ยิ่งถ้าไปหลายคนหรือสัมภาระเยอะจะหา Taxi คันใหญ่ๆก็แทบไม่มี บางคร้ังได้รถแล้วเจอคนขับบริการไม่ดียิ่งน่าเบื่อขึ้นไปอีก ขากลับถ้าไปเจอตอนที่เครื่องลงพร้อมกันเยอะๆ เรียก Taxi ที ต้องรอคิวกันยาวเกือบ ชม.
* จะนั่ง Limousine ไป ก็ทำได้เพียงไม่กี่คร้ังเพราะสิทธิที่ได้จากบัตรเครดิตต่างๆมีค่อนข้างจำกัด
แต่มาวันน้ีเราได้มาเจอทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์คนชอบเดินทางแบบเรา ด้วยบริการรับส่งสนามบิน (Airport Transfer) ของ Traveloka ที่มีคนขับรถไปรับเราจากที่พักเพื่อไปส่งยังสนามบิน หรือจากสนามบินกลับมายังที่พักให้เรานั่งสวยๆ ไม่ต้องเครียดตอนรถติด ตอนวนหาที่จอด หรือค่าจอดรถอันแสนแพง Link ทางไปจองรถรับส่งสนามบินกับ Traveloka => คลิกที่นี่*

traveloka1ข้อดีแรก คือ สามารถจองตอนไหนก็ได้ (ขึ้นอยู่กับรถว่าง) จะเลือกแบบให้มารับทันทีหรือภายหลังก็ได้  ไม่จำเป็นต้องจองก่อนเดินทาง 24 ชม. แต่ทั้งนี้ แนะนำว่าหากรู้เวลาที่แน่นอนแล้ว ให้จองล่วงหน้าสักเล็กน้อย เพื่อป้องกันปัญหารถไม่ว่าง ขั้นตอนไม่ยาก เพียงเลือกสถานที่ต้นทางและปลายทาง (ต้องเป็นสนามบิน 1 ขา) เลือกวันและเวลาที่ใช้บริการ อีกทั้งยังมีรถให้บริการตลอด 24 ชม. ด้วย
traveloka2ข้อดีที่ 2 มีรถให้เลือกมากมายหลากหลายตามจำนวนคนที่เดินทางและจำนวนสัมภาระ อีกทั้งยังมีให้เลือกทั้งแบบ Standard และแบบ Premium ไว้ใช้บริการเอง หรือไว้รับรองแขกก็ทำได้หมด
traveloka3ข้อดีที่ 3 ราคาไม่แพงอย่างที่คิด ลองคิดเล่นๆ ว่าค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน และค่าที่จอดที่เราต้องเสีย หากนำรถมาเอง เทียบกับการใช้บริการนี้ แทบไม่ต่างกัน บางครั้งมี Promotion ส่วนลด ช่วยให้เราประหยัดไปได้เยอะ อีกทั้งยังช่วยให้เราไม่ต้องลากกระเป๋าให้เหนื่อย เพราะมีคนมารับถึงหน้าที่พัก
traveloka4ทั้งนี้สามารถระบุพิกัดหรือจุดที่จะให้คนขับมารับได้ง่ายๆ เพียงพิมพ์ในช่องข้อความสำหรับคนขับ ตอนที่จอง
traveloka5เมื่อเลือกสถานที่ วันที่ และเวลาเรียบร้อย เราเพียงใส่ข้อมูลการติดต่อ และดำเนินการชำระเงิน
traveloka6ในขั้นตอนการชำระเงิน มีให้เลือกทั้งบัตรเครดิต/เดบิต โอนเงินผ่านธนาคาร K PLUS เคาน์เตอร์ชำระเงิน Paypal และ 7-Eleven
traveloka7เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย โดยเราจะได้รับใบยืนยันการจองทาง E-mail และทาง SMS (ที่ระบุไว้ตอนจอง)
traveloka10เมื่อถึงวันที่นัดหมาย คนขับจะมารอเรา ณ จุดที่แจ้งไว้ก่อนเวลานัด เราเพียงแสดงใบยืนยันการจองที่ได้รับ แค่เท่านี้ คนขับก็จะพาเราไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย หากมีการเปลี่ยนแปลงการเดินทางหรือยกเลิก สามารถทำได้ผ่านทางฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ ที่เบอร์ 02-118-5400 ได้ตลอด 24 ชม.
traveloka8 traveloka9สำหรับขากลับ เราจองบริการรับส่งสนามบิน (Airport Transfer) ของ Traveloka ผ่านทาง Application “TRAVELOKA” ในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสะดวก และใช้งานง่ายมากๆ
traveloka appขั้นตอนการจองเหมือนที่ทำผ่านเว็บไซต์ตอนขามา เพียงแค่ต้องระบุ Flight No. ในขากลับด้วย
traveloka11 traveloka12พอถึงวันนัด จะมีคนมาถือป้ายรอรับทันทีที่เรารับกระเป๋าแล้ว แม้เครื่องจะดีเลย์ก็ไม่มีปัญหา เพราะคนขับจะคอย Monitor ว่าเครื่องมาถึงหรือยัง หากยังก็จะรอจนกว่าเราจะมาถึง ถ้าขากลับ จำนวนสัมภาระเพิ่มขี้น ไม่ต้องกังวลถ้าเลือกรถขนาดใหญ่แล้วราคาแพงกว่าเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับรถที่ว่าง อย่างของเรา ขาไปเลือกรถ TOYOTA CAMRY แต่ขากลับเลือกรถ TOYOTA FORTUNER (โดยเลือกต้นทางและปลายทางที่เดียวกัน) ปรากฏว่าขากลับเราจองรถได้ในราคาที่ถูกกว่า แต่มีขนาดที่ใหญ่กว่า ฟินเลยยยยยยย ^^
traveloka13 traveloka14นับว่าเป็นบริการที่ตอบโจทย์คนที่เดินทางบ่อยเป็นที่สุด ทำให้ต่อจากนี้การเดินทางไป/กลับสนามบินก็ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป หากสนใจสามารถจองผ่าน Link ทางไปจองรถรับส่งสนามบินกับ Traveloka => คลิกที่นี่*
traveloka15ใครมีคำถามสงสัยตรงไหน สามารถสอบถามได้ทาง blog รีวิวนี้
หรือในเพจของผมก็ได้ http://www.facebook.com/Nejuphoto
ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวนี้จนจบ… ^^

Comments

comments

Related Articles

Shares
/* ]]> */